ประวัติศาสตร์ของศาลเจ้าโมโตโรกิ

ฟูจิวาระโนะทาบิโกะเป็นลูกสาวของฟูจิวาระโนะโมโมกาวะ เจ้าหน้าที่รัฐในสมัยนารา [ศตวรรษที่ 8] เมื่อโตขึ้น ได้รับคำแนะนำจากพระโจอัน ผู้ก่อตั้งวัดไซโชจิที่เชิงเขาทางใต้ของภูเขาฮิรายามะ ทาบิโกะได้หันมานับถือศาสนาพุทธ จากนั้นย้ายไปเมืองเกียวโตและได้เป็นพระมเหสีของจักรพรรดิคัมมุ เมื่อพระชนมายุได้ 28 พรรษา และให้กำเนิดจักรพรรดิจุนนะ แต่ใน2 ปีต่อมาได้สิ้นพระชนม์ด้วยวัย 30พรรษา ณ เขตไซอิน เมืองเกียวโต ก่อนตาย เธอสั่งเสียไว้ว่าขอให้นำศพไปฝังไว้ใต้ต้นนากิที่เชิงเขาทางทิศใต้ของภูเขาฮิรายามะ ซึ่งเธอก็ถูกนำไปฝังที่นั่น เพื่อให้หลังตายแล้วได้กลับมาเกิดใหม่ยังที่ที่เกิด จึงมีการตั้งชื่อว่า โมโดโรกิไดเมียวจิน (แปลว่า เทพผู้กลับมา) และกลายเป็นเทพผู้พิทักษ์สถานที่นี้
ในเวลาต่อมา มินาโมโตะโนะโยชิโทโมะ ผู้พ่ายแพ้ในกบฏเฮอิจิในปีค.ศ. 1159 ได้หลบหนีไปยังจังหวัดทางตะวันออก โดยแวะที่ศาลเจ้าโมโดโรกิ และถวายลูกธนูขนนกสีขาวเพื่อขอพรให้โชคดีในการศึกสงคราม ต่อมาบุตรชายของเขา มินาโมโตะโนะโยริโตโมะได้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนคามาคุระขึ้น และสามารถกลับไปยังเกียวโตได้สำเร็จตามความปรารถนาของบิดา จากการเล่าขานตำนานพื้นบ้านนี้เอง ทำให้ศาลเจ้าโมโดริกิ กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้มีผู้คนหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เพื่อกราบไหว้ขอพรก่อนจะไปสู้ศึกสงครามหรือไปท่องเที่ยว เพื่อให้ตนสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

สถานที่ที่มีความสัมพันธ์
ศาลเจ้าโมโดโรกิ

กลับไปที่รายชื่อ